ภูชี้ฟ้า แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว

ตอนนี้อีกไม่กี่สัปดาห์จะเข้าหน้าหนาวแล้ว ต้องบอกเลยว่าปีนี้ แต่ละดอย แต่ละภูทางภาคเหนือ จะได้รับความนิยมอย่างแน่นอน เพราะว่า tourist หลายคนอัดอั้นมาจาก Covid ที่ไม่ได้ไปเที่ยวสักที หนึ่งในภูที่เราอยากจะให้เพื่อนๆ สายเที่ยวดอย ต้องไปพิชิตให้ได้สักครั้งก็คือ ภูชี้ฟ้า วันนี้เรามา review พร้อมกับแนะนำ tourist attraction กัน

ข้อมูลเบื้องต้น

ภูชี้ฟ้า ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ Tap Tao Subdistrict, Thoeng District, Chiang Rai Province ที่นี่ถูกตั้งให้เป็น national park Phu Chee Fah ด้วย พื้นที่ประมาณ 322 ตารางกิโลเมตร สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1200 – 1628 เมตร

ตั้งขึ้นเป็นอุทยานเมื่อวันที่ 6 February 2541 พื้นที่สำคัญของ Phu Chee Fah ก็คือ การเป็นยอดเขาสูงในDoi Pha Mon mountain range ติดกับชายแดนไทยและประเทศเพื่อนบ้านอย่าง Lao People’s Republic

Phu Chee Fah นอกจากจุดเด่นเรื่องชายแดนไทย ลาว ที่เราจะได้มองเห็นทั้งฝั่งไทยและฝั่งเพื่อนบ้าน ลักษณทางกายภาพของภูแห่งนี้ยังเด่นอีกด้วย นั่นก็คือ ภูนี้จะเป็นเหมือนกับผาแนวตั้งสูงขึ้นตรงไป ปลายสุดจะยื่นขึ้นไปเหมือนกับนิ้วมือชี้ไปในอากาศ นั่นทำให้ที่นี่ถูกเรียกว่า Phu Chee Fah นั่นเอง

รีวิวท่องเที่ยว

เราบอกไว้ก่อนเลยว่า การจะไปเที่ยว Phu Chee Fah ได้ ตัวเราต้องฟิตกันพอสมควรเลย เนื่องจากจุดเด่น highlight เด็ดของที่นี่ก็คือ การได้เป็น sun ขึ้นที่ปลาย Phu Chee Fah ที่มีทั้งก้อนเมฆ และ หมอก สลับไปมาสวยงาม สีขาวลอยฟุ้งจนเหมือนกับอยู่บนสรวงสวรรค์เลย มองลอดลงไปก็จะเป็นป่าสีเขียวครึ้มดูเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์ของประเทศเพื่อนบ้าน ทีนี้ใครจะไปมันลำบากหน่อย เนื่องจากที่พักกับจุดชมวิวตรงนี้มันค่อนข้างห่างกัน เราต้องเดินเท้าประมาณ เกือบ 2 กิโลเมตร ทำให้การเดินทางไปชมวิวตรงนี้เราต้องออกเดินทางก่อนตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง เพื่อจับจองพื้นที่(ในวันที่คนเยอะ) แล้วก็ไปทัน sun ขึ้น เราบอกเลยว่าคุ้มค่าเหนื่อยแน่นอน

เดินกลับมาจากจุดชมวิว เราจะได้ผ่านอีกหนึ่ง highlight ของภูชี้ฟ้าแห่งนี้ก็คือ ต้นนางพญาเสือโคร่ง หรือเรียกว่า ซากุระเมืองไทย ที่บอกเลยว่า ความสวยงามไม่แพ้ต้นตำรับซากุระ Japan เลย ยิ่งบวกกับสีเขียวธรรมชาติโดยรอบทำให้ต้นซากุระเมืองไทยตรงนี้เด่นมาก ไม่ควรพลาดในการไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

จุดต่อไปเราว่าค่อนข้างไกล ตรงนี้ต้องวางแผนให้ดี แล้วก็เผื่อเวลาเดินทางด้วย นั่นก็คือ Doi Pha Tang ลงมาจาก Phu Chee Fah แล้วไปต่ออีกประมาณ 24 กิโลเมตร จะเจอ ตรงนี้เหมาะกับการไปเที่ยวตอนบ่ายจะดีกว่า

แม้ว่าแดดจะร้อน แดดจะแรง แต่เรากลับมองว่าคุ้มค่ามาก กับการได้ไปยืนมองจุดชมวิว ที่มองเห็น Mekong River ที่กั้นพรมแดนระหว่าง ไทยกับลาว เป็นอีกหนึ่งวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมากไม่ควรพลาดอีกเหมือนกัน

อีกจุด คือ Phu Chee Dao จุดนี้จะเป็นจุดที่เราจะได้มอง Phu Chee Fah ในอีกมุมหนึ่งมากกว่า Located at Por Subdistrict, Wiang Kaen District เราชอบตรงที่ทะเลหมอกก็มีให้เห็นเหมือนกัน view ​ก็สวย แต่ทีเด็ดคงเป็นการได้มอง Phu Chee Fah แบบเต็มตา ถึงความสวยของภูแห่งนี้

อีกจุดที่เราชอบคงเป็นความเงียบ ไม่พลุกพล่านเท่าไร เนื่องจากนักท่องเที่ยวอาจจะไม่ได้แวะมาทางนี้ไปเที่ยว แล้วกลับเลย หรืออาจจะไปที่ Phu Chi Duean ที่อยู่ไม่ไกลกันเท่าไรแทน ทำให้เราได้เสพธรรมชาติแบบเต็มอิ่ม ได้ชาร์ตแบตเต็มที่กับอากาศบริสุทธิ์

เล่ามาทั้งหมดนี้ ก็อยากจะเชิญชวนสาย camping สาย backpack ทั้งหลาย หากมีเวลา เตรียมเดินทางไปเที่ยวแต่เนิ่นๆ เลย ฟิตร่างกายให้พร้อม แล้วไปชี้นิ้วบนฟ้ากันดีกว่า

ภูชี้ฟ้า