อยากจะขอพาทุกท่านไปรู้จักกับวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองมาเก๊า ประเทศจีน เป็นหนึ่งในวัดที่ดังมากที่สุดของเมืองและเคยได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย ไม่ว่าจะนักท่องเที่ยวคนไหนได้มาเที่ยวมาเก๊า ก็มักจะไม่พลาดแวะเวียนเข้ามากราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จนปัจจุบันวัดแห่งนี้ได้กลายเป็นศูนย์รวมจิตใจและสถานที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายยอดนิยมแก่ชาวมาเก๊าและนักท่องเที่ยวไปแล้ว หากทุกท่านได้ลองอ่านบทความนี้จนจบ ไม่แน่ว่าอาจจะหลงรัก พร้อมอยากจะมาเยือนวัดแห่งนี้สักครั้งในชีวิตก็เป็นได้
“วัดอาม่า (A-Ma Temple)” หรือชื่อที่ชาวไทยอย่างเราคุ้นหูกันว่า “ศาลเจ้าแม่ทับทิม” เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดของมาเก๊า ตั้งอยู่บนเนินเขา ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ก่อนจะมีเมืองมาเก๊าเสียอีก โดยสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1488 วัดอาม่าคือวัดที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์สำคัญทางวัฒนธรรมของมาเก๊า มีการผสมผสานทั้งเทพศักดิ์สิทธิ์องค์ต่างๆ ตามความความเชื่อ, วัฒนธรรมประเพณี, ความศรัทธาในพุทธศาสนา, ลัทธิขงจื้อและลัทธิเต๋า รวมไปถึงคติความเชื่อพื้นบ้าน
ภายในวัดมีการประดิษฐาน “องค์เทพธิดาแห่งท้องทะเลหรือองค์เจ้าแม่ทับทิม” ตัวอาคารต่างๆ มีความงดงามอ่อนช้อยตามฉบับสถาปัตยกรรมสไตล์จีน และด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ความศักดิ์สิทธิ์ และความเก่าแก่ ทำให้วัดอาม่ากลายเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวมาเก๊าทั่วทั้งแผ่นดิน อีกทั้งยังเป็นที่นิยมเคารพศรัทธาของนักท่องเที่ยวตั้งแต่อดีตมาถึงในปัจจุบัน จนกระทั่งปีค.ศ.2005 ได้รับการยกย่องให้ขึ้นเป็นมรดกโลกจาก “UNESCO”
นอกจากองค์เจ้าแม่ทับทิมที่ผู้คนนิยมกราบไหว้บูชาแล้ว ภายในวัดก็ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกอย่างหนึ่งที่ชาวมาเก๊าและนักท่องเที่ยวให้ความเคารพ ซึ่งสิ่งศักดิ์สิทธ์ที่ว่าก็คือก้อนหินสลักรูปเรือ เป็นก้อนหินที่ว่ากันว่าเจ้าแม่ทับทิมเหยียบลงเป็นก้าวแรกเมื่อครั้งในอดีต สำหรับวิธีการกราบไว้บูชา ให้ผู้กราบไหว้เขียนชื่อ พร้อมคำอธิษฐานลงไปในกังหันลม เชื่อว่าจะเป็นการเสริมสิริมงคลให้แก่ผู้กราบไหว้
วัดอาม่าเปิดให้นักท่องเที่ยวมาแวะเวียน กราบไหว้สักการะและสัมผัสบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ได้ตลอดทั้งปี ช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเยี่ยมเยือนกันมากที่สุด จะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงด้วยกัน ดังนี้ ช่วงแรก ก็คือ ช่วงฤดูหนาว หรือช่วงเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ ซึ่งจะเป็นช่วงที่มีอากาศค่อนข้างดี เย็นสบาย นักท่องเที่ยวจะสามารถมาเที่ยว พร้อมกับชื่นชมบรรยากาศ สัมผัสประวัติศาสตร์ของวัดได้อย่างเต็มที่ ส่วนในช่วงที่สอง คือ ช่วงเดือนเมษายน – เดือนพฤษภาคม เป็นช่วงเวลาที่วัดมีการจัดงานฉลองเทศกาลอาม่า โดยในช่วงนี้ ผู้คนชาวมาเก๊า รวมไปถึงนักท่องเที่ยวทั่วสารทิศจะให้ความสนใจ พร้อมใจกันมาดื่มด่ำเทศกาลอย่างเนืองแน่น