ทุกรัชกาลของราชวงศ์จักรีจะต้องมีวัดประจำรัชกาลด้วยเสมอ คำถามก็คือ เรารู้หรือไม่ว่า รัชกาลที่ ๑๐ วัดประจำรัชกาลคือที่ไหน เราเชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่รู้ เพราะงั้นวันนี้เราจะมาตอบให้ฟัง คำตอบก็คือ วัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร ใครยังไม่รู้จักวัดนี้ เราจะมาแนะนำกัน
ข้อมูลเบื้องต้น วัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร
ชื่อวัด วัดวชิรธรรมสาธิต ตั้งอยู่ที่ ซอยสุขุมวิท 101/1 ถนนสุขุมวิท แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร วัดถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิด วรวิหาร ตั้งเป็นวัดสำหรับนิกาย มหานิกาย เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันก็คือ พระพิพัฒนกิจวิธาน (บุญศักดิ์ สิริปุญโญ)
วัดเปิดให้บริการเข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00-18.00น. เราสามารถเข้าไปเยี่ยมชมวัดแห่งนี้บนโลกออนไลน์ได้ที่ facebook:วัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร
สำหรับใครที่อยากจะเดินทางไปเที่ยวัดแห่งนี้พร้อมกับสักการะไปด้วย เราแนะนำว่านั่ง BTS จะสะดวกมากที่สุด เลือกลงสถานีปุณณวิถี แล้วก็ต่อพี่วิน หรือรอรถสองแถวก็จะถึงหน้าวัดได้เลย ไม่ไกลมากนัก แต่ไม่แนะนำให้เดินไป
ประวัติความเป็นมา
วัดนี้เดิมชื่อว่า วัดทุ่งสาธิต สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2399 โดยคหบดีชาวลาวชื่อว่า นายวันดี เค้าอพยพมาจากเวียงจันทน์ เลยสร้างวัดนี้ขึ้นมา น่าเสียดายพอสิ้นนายวันดี พร้อมกับเจ้าอาวาสองค์สุดท้าย วัดนี้ก็ไม่มีใครสานต่อ เลยทำให้วัดนี้กลายเป็นวัดร้าง จนกระทั่งปี 2506 หลวงพ่อนวล หรือ พระอาจารย์ สาธิต ฐานวโร ท่านได้เข้ามาบูรณะวัดแห่งนี้ จนกระทั่งมีพระภิกษุมาจำพรรษา ช่วยกันพัฒนาปรับปรุงวัดให้ดีขึ้น จนกลายเป็นวัดที่มีชื่อเสียง เป็นศูนย์รวมจิตใสของชาวพระโขนงในปัจจุบัน
ปี 2508 ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ได้โปรดเก้า ให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ์ รับวัดทุ่งสาธิตนี้ไว้ในอุปถัมภ์ซึ่งชื่อนี้มีความหมายแยกตามคำก็คือ วชิร หมายถึง วชิราลงกรณ์ , ธรรม หมายถึงคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า , สาธิตหมายถึง นามเดิมพระโสภณวชิรธรรม , วรวิหาร หมายถึง พระอารามหลวงชั้นตรี จากประวัติที่เล่ามาทั้งหมดทำให้วัดแห่งนี้ถือว่าเป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๑๐ นั่นเอง
รีวิว ท่องเที่ยว
หากใครเดินทางไปเที่ยววัดแห่งนี้ ไฮไลต์เด็ดที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ พระเจดีย์จุฬามณีศรีล้านนา พระเจดีย์ขนาดใหญ่ ที่จำลองมาจากพระธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูน ด้านในมีการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ 25 องค์ นั่นทำให้พระเจดีย์แห่งนี้เต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่ต้องการมาสักการระ พระบรมสารีริกธาตุดังกล่าว รวมถึงต้องการจะมาเห็นเจดีย์ขนาดใหญ่ที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงามไม่เหมือนใครด้วยนั่นเอง
จุดต่อมา พระวิหารพุทธมหามุนีศรีหริภุชัย ที่จำลองมาจากต้นแบบก็คือ วิหารลายคำ วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงใหม่ ด้านในประดับด้วยลวดลายดอกปูน ตามศิลปะล้านนา ด้านในประดิษฐานหลวงพ่อพระพุทธมหามุนีศรีหริภุญชัย หากใครต้องการจะไปสักการะ บอกเลยว่าที่นี่ขลังมาก ไม่แน่สิ่งที่เราขอพรไว้อาจจะสำเร็จเกิดขึ้นจริงก็เป็นได้
จุดสุดท้ายเป็นสังเวชเจดีย์ ที่จำลองมาจาก เจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย ที่เหมือนมาก มีการบรรจุดิน สังเวชนียสถาน 4 ตำบล ด้วยเพื่อให้เหมือนจริงมากขึ้น
นอกจากนั้นบริเวณโดยรอบ ยังมีการจัดซุ้มเทอดพระเกียรติในหลวง รัชกาลที่ ๑๐ อย่างสวยงาม สมพระเกียรติด้วย รวมถึงมีการจัดนิทรรศการต่างๆ มากมาย ภายในวัด เราสามารถเดินชมทั้งหมดได้ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็เดินทั่วแล้ว ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวัดประจำรัชกาลที่ ๑๐ หลายคนไม่รู้มาก่อนด้วยซ้ำไป ควรไปสักทีหนึ่งนะ วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร