ที่ฮิตไม่ควรพลาด ประเทศไทย วัดวาอาราม

วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร

วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร วัดนอกจากจะเป็นสถานที่ทางศาสนาแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำหรับเรื่องของสถาปัตยกรรมด้วย วันนี้เราจะมาแนะนำอีกหนึ่งวัดที่ว่ากันว่า เป็นวัดที่สวยงามที่สุดหากวัดจากสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นแตกต่างจากวัดอื่นแบบเห็นได้ชัดทีเดียว นั่นก็คือ วัดราชโอรสรารามราชวรวิหาร ใครยังไม่เคยไป ไม่รู้จัก เดี๋ยวเราแนะนำให้

วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร

วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร

วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร

วัดตั้งอยู่ที่ 258 ซอยเอกมัย 4 ถนนเอกชัย จอมทอง กรุงเทพมหานคร ใครต้องการจะไปวัดแห่งนี้ ก็สามารถนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน สายสีลมได้เลย ส่วนใครจะนั่งรถบัส ก็ไปได้โดยนั่งรถหมายเลข 120 / 167 / ปอ.43 เป็นต้น

วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร

วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร ประวัติความเป็นมา

ตามประวัติเล่าว่าเดิมทีเป็นวัดทั่วไป มีชื่อว่า วัดจอมทอง วัดเจ้าทอง หรือ วัดกองทอง แล้วแต่ชาวบ้านจะเรียก เชื่อกันว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา พอเข้ายุครัตนโกสินทร์ ได้เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นนั่นก็คือ พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ได้ยกทัพไปสกัดพม่าที่ด่านพระเจดีย์สามองค์ จังหวัดกาญจนบุรี ทีนี้ตอนที่ให้กองทัพหยุดพักที่วัดแห่งนี้ ก็ทำพิธีเบิกโขลนทวาร พิธีที่ทำเพื่อเสริมสร้างกำลังใจให้กับกองทัพได้รับชัยชนะ ปรากฎว่าหลังจากทำพิธีดังกล่าว การรบครั้งนั้น พม่ากลับหยุดไม่บุกเข้ามอีก นั่นทำให้ท่าไม่ได้ยกทัพออกไปสู้ ยกทัพกลับพระนครทันที นั่นทำให้ท่านมีความประทับในต่อวัดแห่งนี้ จึงความคิดที่จะบูรณปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้ขึ้นมาใหม่ โดยท่านเป็นคนควบคุมการบูรณะเองด้วย เมื่อเสร็จแล้วจึงถวายเป็นพระอารามหลวง ทำให้ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อว่า วัดราชโอรส แปลว่า วัดที่ลูกชายทำถวายนั่นเอง

วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร

วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร

วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร

ทีนี้การสร้าง และบูรณะในครั้งนั้น ไม่ได้ทำแต่เรื่องสร้างอย่างเดียว จุดเด่นก็คือการดีไซน์ และ การนำสถาปัตยกรรมที่แตกต่างออกไปมาใช้ กล่าวคือการบูรณะวัดนั้น ได้มีการนำศิลปะของชาวจีน มาเป็นธีมหลักในการสร้างสถาปัตยกรรม บวกกับ ศิลปะของไทย ทำให้เกิดการสร้างสถาปัตยกรรมแนวใหม่ที่ไม่เหมือนใครเลยในเวลานั้น ยกตัวเอย่าง โบสถ์ วิหาร ที่ไม่มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ , กุฏิสงฆ์เป็นอาคารตึกแทนแบบเรือนไม้อย่างเดิม การทำบานประตูพระวิหารพุทธไสยาสน์ที่เป็นเสี้ยวกาง แทนของไทย เป็นต้น

อีกหนึ่งจุดที่นำเรื่องความเชื่อของชาวจีนมาผสมด้วย ก็คือการวางผังของวัด ที่นำเรื่องฮวงจุ้ยมากำหนดแผนผังด้วย ก็คือ การให้วัดมีพระอุโบสถหันหน้าไปทางทิศตะวันออกที่มีคลอง มีศาลาการเปรียญขนาบข้าง

ต้องยอมรับด้วยสถาปัตยกรรมไทย + จีน ทำให้ตอนที่เราเดินชมให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป อารมณ์เหมือนเดินศาลเจ้าจีน แต่ว่าอยู่ในวัดนะ อย่างเช่นการได้เห็นทวารบาลมักจะเป็นการแกะสลักไว้ที่ประตู แต่ที่นี่ไม่ใช่ เป็นหุ่นตุ๊กตากระเบื้องเคลือบตัวใหญ่ 2 ตัว แถมเป็นตุ๊กตาแนวจีนอีกต่างหาก ส่วนประตูจะวาดภาพเป็นทวารบาลจีน ด้านหลังเป็นมังกรทอง เรียกว่าความขลังมาเต็มมาก พอเข้าไปด้านใน จะได้เจอกับ พระพุทธอนันตคุณอดุลยญาณบพิตร พระพุทธรูปปางสมาธิ

จากนั้นออกมาแล้ว อย่าลืมไปอีกจุดหนึ่งก็คือ วิหารพระพุทธไสยาสน์ จุดเด่นเลยก็คือ ตรงลายมงคล 108 ประการตรงพระบาทแบบเดียวกับวัดโพธิ์ ซึ่งใช้เทคนิคลายรดน้ำ ที่แตกต่างออกไปให้ความสวยไม่เหมือนกัน ยังไม่จบ ให้เราเดินต่อไปด้านหลังหลวงพ่ออู่ทอง เราจะได้เห็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของที่นี่ นั่นก็คือ ส่วนที่เป็นของเดิมจากสมัยยังเป็นวัดจอมทองอย่าง พระพุทธรูปแต่ละปราง ที่น่าสักการะเลื่อมใสมาก ลองไปเดินดูเองได้ที่เหลือ

วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร

วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร