จังหวัดเชียงใหม่ เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เป็นเป้าหมายการท่องเที่ยวของใครหลายคนในช่วงหน้าหนาวที่กำลังจะเข้ามาในอีกไม่กี่วัน จังหวัดเชียงใหม่ไม่ได้มีแต่ตัวเมืองที่น่าเที่ยว ออกไปนอกเมืองก็มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติน่าไปเที่ยวเยอะเหมือนกัน ถ้ำ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอยากให้ไป เค้ามีการจัดระเบียบอย่างดี ไปแล้วไม่มีหลงทาง วันนี้จะมาแนะนำ ถ้ำเมืองออน จังหวัดเชียงใหม่
การเดินทาง
วิธีการเดินทางไปถ้ำเมืองออน ไม่ได้ยากเลย หากเราตั้งต้นจากตัวเมืองเชียงใหม่ เราเดินทางไปตามเส้นทางสันกำแพง น้ำพุร้อน ขับรถไปตามทางจนถึงอำเภอสันกำแพง จากนั้นออกจากอำเภอไปสัก 17 กิโลเมตร จะมีทางแยกเข้าไปอีก(มีป้ายบอกทาง) ขับต่อไปประมาณ 2 กิโลเมตร ก็จะเจอเลย รวมเส้นทางจากเชียงใหม่มาถึงตัวถ้ำประมาณ 50 กิโลเมตร ขับรถก็จะประมาณ ชั่วโมงหนึ่งไม่เกิน ถ้ำเปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
ภายในถ้ำ
ถ้ำนี้มีลักษณะเด่นก็คือ จะเป็นถ้ำขนาดใหญ่ ด้านในมีโครงสร้างหินหลายชนิด หินชั้น และหินแปรมีมากที่สุด ตัวถ้ำมีการทำเส้นทางเดินชมอย่างสวยงาม ปลอดภัย และเส้นทางไม่ไกลมาก ทำให้เรารู้สึกปลอดภัย จุดเด่นอยู่ตรงที่เราเดินทางตามเส้นกำหนดจากนั้นก็เดินลงบันไดไป เราจะเจอห้องโถงถ้ำขนาดใหญ่ ที่มีหินงอก หินย้อยงดงามมาก ตรงกลางของห้องจะเจอกับ พระธาตุนมผา ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของที่นี่เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ และ พระนอน (ห้องตรงนี้เราว่าแอบน่ากลัวไปหน่อยเนื่องจากแสงน้อย) เราสามารถสักการะขอพระได้หมดเลย ตามประวัติบอกว่าถ้ำแห่งนี้ยังเคยเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมสายวิปัสนากัมมัฏฐานของครูบาศรีวิชัย ทำให้เราได้เห็นปากถ้ำมีรูปปั้นครูบาศรีวิชัยด้วย
เดินทางตามตำนาน
ถ้ำเมืองออนแห่งนี้ ตามประวัติมีเรื่องราวตำนานน่าสนใจตรงที่ว่า ครั้งอดีตพระพุทธเจ้าเคยเดินทางธุดงค์มาเผยแพร่คำสอน ผ่านเมืองหริภุญชัย จากนั้นก็ขึ้นเหนือจนมาถึงถ้ำแห่งนี้ ในถ้ำตอนนี้พญานาคสิงสถิตอยู่ พญานาคตนนั้นได้แปลงกลายเป็นมนุษย์แล้วเอาผลไม้ป่าถวายแด่พระพุทธเจ้า พญานาคจึงขอเอาพระเกศาธาตุมาตั้งไว้ในถ้ำนี้ เพื่อเอามาบูชา จากนั้นท่านครูบาศรีวิชัย ได้เดินทางธุดงค์มาเจอถ้ำแห่งนี้ เห็นความสวยงาม และเต็มไปด้วยเรื่องราว จึงชวนผู้มีจิตศรัทธาสร้างพัฒนาเส้นทางเข้าถ้ำให้ง่ายมากขึ้นก็เปลี่ยนชื่อมาเป็น ถ้ำเมืองออน
ด้านบนของถ้ำ
หลังจากเดินเที่ยวในถ้ำหมดแล้ว อย่าเพิ่งรีบกลับ ยังมีอีกหนึ่งจุดที่วิวสวยมาก ไปเที่ยวด้วยนั่นก็คือ ด้านบนของถ้ำ เราต้องเดินขึ้นไปจากปากถ้ำขั้นบันได 700 ขั้น ตรงนี้อาจจะเหนื่อยหน่อย แต่ขอให้ทนเอา พอเดินขึ้นฝ่าทั้งหมดเราจะได้เจอวิวแบบพาโนรามา 360 องศา ธรรมชาติเต็มตาสองข้างวิวเชียงใหม่มุมสูงที่เราไม่ต้องขับรถขึ้นดอยไปไกล อีกทั้งเราจะได้ขึ้นไปเพื่อนมัสการหลวงพ่อทันใจอีกด้วย ตรงนี้ใครอยากขออะไรให้รีบขอเลย เพราะว่ามีหลายคนมาเยือนแล้วขอเกิดได้ตามนั้น
สรุปแล้วนี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งถ้ำที่มีเรื่องราวประวัติศาสตร์น่าสนใจมาก ทั้งด้านประวัติศาสตร์ และความเชื่อ ใครที่เป็นสายมู สายไหว้พระ สายขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้ำแห่งนี้น่าไปมาก แต่แนะนำว่าควรพกร่มไปด้วย เนื่องจากแดดแรง ตอนขึ้นไปด้านบน ส่วนด้านในไม่ร้อนเท่าไร อาจจะเพราะว่าถ้ำนี้มีน้ำหยดไหลมาตลอดทำให้ ถ้ำนี้มีความชื้นแต่ไม่ทำให้อับจนเดินไม่ไหว อีกอย่างถ้ำนี้ ไม่ได้ไกลมากจากตัวเชียงใหม่ เราสามารถไปกลับได้ในวันเดียว ลองไปดูกันได้
