บางครั้งสิ่งที่อยู่ใกล้เราก็อาจจะมองข้ามมันไปโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้เหมือนกัน สถานที่ท่องเที่ยวก็ด้วย หลายแห่งอยู่ใกล้เรามากแต่ก็ไม่เคยไปกันสักทีหนึ่ง นนทบุรี เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะมาเล่าให้ฟัง นนทบุรี เป็นอีกหนึ่งเขตปริมณฑลที่มีคนอยู่เยอะ ร้านค้าของกิน อร่อย ดีๆ เพียบๆ วันนี้ใครที่ไม่อยากไปเที่ยวไหนไกล ประมาณว่า เช้าไปเย็นกลับ พร้อมกับของกินอร่อยๆ แบบกินให้เต็มที่ฟินให้ท้องแตก เราว่าที่นี่มีดีกว่าที่คิดเยอะเลย
วิธีการเดินทาง มาท่าน้ำนนท์
มาว่ากันเรื่องเดินทางกันบ้าง เอาจริงเราแนะนำว่า ขับรถไปเองจะสะดวกกว่า เพราะว่ามีที่เที่ยวหลายที่ จะทำให้เราไปเที่ยวได้อย่างสนุกสนาน แล้วไม่กังวลกับเรื่องการเดินทางมากเกินไป แต่ถ้าใครไม่พร้อม หรืออยากเปลี่ยนบรรยากาศ เราก็แนะนำว่า โดยสารสาธารณะก็มีทางเลือกพอสมควร นั่งเรือด่วนเจ้าพระยาจะได้พบกับบรรยากาศใหม่เลย รถไม่ติดแน่นอน เรือด่วนมีให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00-19.00 น. เนื่องจากท่าน้ำนนท์เป็นต้นสายของเรือด่วนสายนี้ ยังไงก็มาถึง แต่ถ้าใครอยากจะนั่งรถประจำทาง เราแนะนำว่า รถเมล์วิ่งมาถึงตรงนี้ก็เยอะเหมือนกัน เลือกนั่งได้เลยที่ 63/64/97/114/117/203/1024ข. / ปอ.543
รีวิวสถานที่ท่องเที่ยว
เมื่อพร้อมแล้ว ก็มาว่ากันเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวกันบ้างดีกว่า ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความเป็นโบราณ คลาสสิค ทั้งทำขึ้นใหม่ แล้วก็เก่าจริง แลนด์มาร์คแรกเราชี้เป้าไปที่นี่เลย ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี หลังเก่า สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ แล้วตอนแรก มีความคิดจะให้ตรงนี้เป็นโรงเรียนกฎหมาย แต่ว่าเกิดเหตุการณ์ทางด้านเศรษฐกิจทำให้การเปิดต้องชะลอออกไปแล้วก็ย้ายไปเปิดเรียนรวมกับโรงเรียนมหาดเล็กหลวงในที่สุด จนทำให้ร้างแล้วก็กลายเป็นศาลาว่าการนนทบุรี ปัจจุบันตรงนี้ได้ปรับเป็นพิพิธภัณฑ์ของนนทบุรี การเดินเข้าไปชมพร้อมกับฟังเรื่องราวของนนทบุรีแบบคร่าวๆ จะทำให้การเที่ยวแถวท่าน้ำนนท์ของเราอินมากขึ้น
ถัดมาไม่ไกลจากที่แรก เป็นศาลเจ้าชื่อว่า ศาลเจ้าแม่ทับทิม ที่นี่เค้าบอกว่าศักดิ์สิทธิ์มาก ใครที่ไปขอพรเรื่องของค้าขาย จะได้รับความโชคดี มีชัย ทำมาค้าขาย กำไรเงินทองไหลมาเทมาเลย อย่าได้พลาดเข้าเชียว ไม่ว่าคุณจะเป็นสายมูหรือไม่ก็ตาม จุดต่อไปที่สายมู ต้องรู้จักกันเป็นอย่างดีก็คือ วัดเล่งเน่ยยี่ 2 วัดจีนที่เป็นวัดอุปถัมภ์จากคณะสงฆ์จีนในประเทศไทย วัดนี้ถือว่าเป็นศูนย์รวมของชาวพุทธสายมหายารด้วยเหมือนกัน ใครที่รู้สึกว่าอะไรในชีวิตไม่เป็นใจ บวกกับเป็นปีชงของตัวเอง เราแนะนำเลยว่า มาแก้ปีชงที่วัดนี้ได้เหมือนกัน ไม่เท่านั้นการได้เดินชมสถาปัตยกรรมจีนของวัด ก็ถือว่าเป็นการเปิดหูเปิดตาอย่างดีทีเดียว
จุดต่อไปเอาใจวัยรุ่นกันบ้าง แลนด์มาร์คใหม่ที่ชื่อว่า street art หรือถนนศิลปะ จุดนี้จะอยู่ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ จุดเด่นของที่นี่ก็คือ ภาพวาดสามมิติที่อยู่บนกำแพงสีขาวทอดยาวออกไป นั่นทำให้เราสามารถแอคชั่น ท่าทางแปลกๆ กับภาพสามมิติเหล่านั้นได้เต็มที่เลย บอกเลยว่าจุดนี้วัยรุ่นเพียบ ภาพงานศิลป์ของเค้าดีจริง
ปิดท้ายด้วยการออกไปไกลหน่อย แต่เป็นพิพิธภัณฑ์ใหม่ นั่นก็คือ ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ที่ด้านในจะเป็นอาคารพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับเรื่องไฟฟ้า และ พลังงาน อุปกรณ์การนำเสนอถือว่าทำออกมาได้ดี จัดเต็มมาก เดินกันเพลินเลย เด็กๆ น่าจะชอบ ผู้ใหญ่ ก็ถือว่าโอเคด้วยเหมือนกัน ได้รู้เรื่องราวของพลังงาน และ สร้างจิตสำนึกในการประหยัดพลังงานได้ดีมากจริงๆ เอาเป็นว่า ท่าน้ำนนท์ยังมีที่เที่ยวอีกเยอะ