ประเทศไทย วัดวาอาราม

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว วัดจุฬามณี จังหวัดสมุทรสงคราม

ปีนีใครอยากไหว้พระทำบุญเสริมดวง โชคลาภ วาสนา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การเข้าหาโอกาสไปสักการะท่านท้าวเวสสุวรรณ เป็นสิ่งที่ควรกระทำอย่างมาก หากใครต้องการจะไปบูชาท่านท้าวเวสสุวรรณ มีหลายแห่งทั่วประเทศไทยของเรา วันนี้เราจะมาชี้เป้าอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของคนที่อยากไปสักการะ นั่นก็คือ วัดจุฬามณี ใครยังไม่เคยไปเราแนะนำให้ลอง

ข้อมูลเบื้องต้น

วัดจุฬามณี ตั้งอยู่ที่ 93 หมู่ 9 ตำบลบางช้าง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม วัดเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. สามารถโทรติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 081-845-0713 หรือใครจะเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ facebook:watjulamanee

ใครที่อยากเดินทางไปเที่ยววัดดังกล่าว เราแนะนำว่าขับรถไปเองจะสะดวกที่สุด สามารถเดินทางไปโดยตั้งต้นจากตัวเมืองสมุทรสงคราม ออกนอกเมืองโดยใช้ถนนหมายเลข 35 จากนั้นก็เลี้ยวตรงป้ายที่แยกเข้าอำเภออัมพวาไป จากนั้นก็ข้ามคลองอัมพวา แล้วก็เลี้ยวขวา ตรงไปอีกสักหน่อยก็จะเป็นป้ายวัดตั้งเด่น พร้อมกับ ท้าวเวสสุวรรณโณ

ตามประวัติบอกว่า วัดจุฬามณี แห่งนี้ เป็นวัดเก่าแก่โบราณมาก เชื่อกันว่าสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย หรือเจาะจงไปก็น่าจะเป็นช่วงรัชสมัยพระเจ้าปราสาททอง สันนิษฐานว่า ท้าวแก้วผลึก (น้อย) เป็นผู้สร้างขึ้นมาซึ่งท่านเป็น นายตลาดบางช้าง และเป็นต้นราชินิกุล บางช้าง ที่เราได้ยินมาจนถึงปัจจุบันด้วย

จุดท่องเที่ยวสำคัญ

เราชอบบริเวณวัดโดยรอบมีความสะอาด สบายใจ ร่มรื่นมาก เดินแล้วไม่ค่อยรู้สึกร้อนเท่าไร จุดท่องเที่ยวเช็คอินที่ต้องไปไหว้สักการะก็จะมีสามแห่งด้วยกัน หนึ่ง สังขารที่ไม่เน่าเปื่อย ของหลวงพ่อเนื่อง โกวิท อดีตเจ้าอาวาสที่เป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์อย่างมาก ทำให้เราถึงกับอึ้งทีเดียว ตอนที่ได้เห็นสักการะของท่าน สองเป็นโบสถ์จัตุรมุขหินอ่อน จุดเด่นเป็นพื้นโบสถ์ที่สร้างด้วยหินหยกสีเขียวจากเมืองการาจี ประเทศปากีสถาน นอกจากนั้นยังมีภาพตราพระราชลัญจกร ตั้งแต่รัชกาลที่ ๑ จนถึงรัชกาลปัจจุบันด้วย ปิดท้ายก่อนออกจากโบสถ์ด้วยการเดินชมจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับพุทธประวัติ และนิทานชาดก ตรงนี้มีภาพธรรมะ และข้อคิดบางอย่างแฝงอยู่หากยืนคิดไตร่ตรองให้ดี เหมือนเราจะได้ฟังธรรมคำสอนบทดีบทหนึ่งที่สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้เลย ภาพชาดกตรงนี้ทางวัดให้ข้อมูลว่ากว่าจะเสร็จต้องใช้เวลานานถึง 6 ปีเลยทีเดียว

พอเดินออกจากโบสถ์มาก็ถึงแลนด์มาร์คสำคัญของที่นี่ นั่นก็คือ องค์ท่านพ่อท้าวเวสสุวรรณ หรือ ท้าวเวสสุวัณ โดยองค์ของวัดนี้จะตั้งตระหง่านอยู่กลางแจ้ง แนะนำว่า ตอนไปไหว้อาจจะต้องเผื่อเวลาไว้หน่อยคนเยอะมาก แล้วอย่าลืมพกเครื่องกันแดด อย่างหมวก ร่ม ไปด้วยแดดแรงจริง(เลี่ยงเวลาเที่ยงได้จะดี) กว่าเราจะยืนสวดคาถาสักการะจบ ก็นานอยู่นะ ดังนั้นใครไม่ไหวอย่าเสี่ยงยืนตากแดดนาน แต่การได้สักการะท่าน พร้อมกับกล่าวคำบูชาอย่างถูกต้อง มันกลับทำให้เรารู้สึกสบายใจอย่างน่าประหลาดทีเดียว หลังจากไหว้เสร็จแล้ว เราแนะนำว่าอย่าเพิ่งกลับ มาถึงตรงนี้ทั้งที เราขอชี้เป้าว่า เข้าไปเลือกเช่าบูชาวัตถุมงคลเกี่ยวกับท้าวเวสสุวรรณได้ตามกำลังศรัทธาของตัวเอง(ที่นี่เค้าว่ากันว่า ขลัง ศักดิ์สิทธิ์มาก) แน่นอนว่าหากได้บูชานำกลับไป ก็เหมือนเราได้มากราบไหว้สักการะท่านทุกวัน แต่อยู่ที่บ้านได้เลยแนะนำ ราคาก็ไม่แพง เราพอหาเช่าบูชากันได้ ส่วนงานประจำปีของวัดนี้จะเป็ฯช่วงปลายปี เดือนธันวาคม ที่จะเป็นงานพุทธาภิเษก สวดนพเคราะห์ ใครสนใจก็ลองติดตามได้ทางช่องทางประชาสัมพันธ์ของวัดตามที่ได้บอกไป