Tidroam วันนี้จะขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กทมขับรถแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ได้เที่ยวแบบชิลล์แล้วพักผ่อนแบบธรรมชาติที่หาจากที่ไหนไม่ได้แล้วนั่นก็คือ ตลาดน้ำอัมพวา มาที่นี่เที่ยวครบไม่ว่าจะเป็นนั่งเรือไปไหว้พระตามวัดต่างๆหรือจะหาของอร่อยๆทานเพราะที่นี่ทั้ง 2 ฝากฝั่งจะมีแม่ค้าพายเรือมาขายของกินเยอะมากซื้อกินหรือจะนั่งกินที่ร้านแบบฟินสัมผัสบรรยากาศริมคลองลมพัดเย็นๆได้ฟิวแบบธรรมชาติสุดๆ






มาเที่ยวอัพวา ก็ต้องไม่พลาดกับการล่องเรือแม่น้ำแม่กลองชมหิ่งห้อยยามค่ำคืน


มาเที่ยวอัมพวาสิ่งที่ไม่ควรพลาด การนั่งเรือไหว้พระ 5 วัดในอัมพวาสามารถทำได้ทุกวัน ไม่เฉพาะแค่เสาร์-อาทิตย์เท่านั้นการเดินทางเที่ยวอัมพวาทางเรือนั่น เป็นกิจกรรมที่นิยมกิจกรรมหนึ่งของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวอัมพวา หากเหมาลำ ราคาตะอยู่ที่ประมาณลำละ 300-500 บาท (แล้วแต่ท่าเรือ) นั่งได้ ไม่เกิน 10 คน เกิน10 คน คิดในราคาคนละ 50 บาท โดยเรือจะพาไปเที่ยวไหว้พระ ที่วัดต่าง ๆ ประมาณ4-5 วัดดังนี้ วัดบางกุ้ง วัดบางแคน้อย วัดบางแค่ใหญ่ วัดภุมรินทร์กุฎีทอง วัดอัมพวัน เป็นต้น



สำหรับยามเย็นที่ตลาดน้ำอัมพวาก็จะมีกิจกรรมนั่งเรือไปชมหิ่งห้อย เราจะได้เห็นวิถีชาวบ้านและดูหิ่งห้อยไปด้วยค่าบริการคนละ 60 บาท ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าเรียกได้ว่าคุ้มค่ากับเงินที่เสียเพราะจะได้สัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิดกันไปเลย หลังจากล่องเรือเสร็จก็มาเดินเล่นตลาดน้ำอัมพวายามค่ำคืนก็จะได้เห็นบรรยากาศทั้งกลางวันและกลางคืนสวยไปอีกแบบ





คาเฟ่บนชายหาดพัทยาสุดน่ารัก ที่เปลี่ยนทะเลที่แสนจะธรรมดาให้กลายเป็นสีชมพูหวานแหวว Tutu Beach คาเฟ่สีชมพูสไตล์ฮาวาย ตั้งอยู่ที่พัทยา 8/8 ซอย นาจอมเทียน 10 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี คาเฟ่เอาใจสายเซลฟี่ บวกกับบรรยากาศริมทะเลที่ชมพู๊ ชมพู! และอาหารสไตล์ฮาวายแสนอร่อย สถานที่เที่ยวที่เหมาะสําหรับคู่รักข้าวใหม่ปลามัน หรือเพื่อนซี้สุดสนิท ให้ได้ไปนั่งชิลๆ ดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดฟินที่แสนจะโรแมนติค สถานที่ด้านใน Tutu Beach จะแบ่งที่นั่งทั้งหมด 3 โซนด้วยกัน นั้นคือที่นั่งบริเวณเคาน์เตอร์สั่งอาหาร ชิงช้าด้านหน้าให้ได้นั่งนึกถึงวัยเด็ก และที่นั่งยอดฮิตที่เป็นไฮไลท์ของงานนั้นก็คือโซฟาสีชมพูริมทะเล มีร่มผ้าใบกลางเพื่อให้ร่มเงาดับความร้อนได้เพียงแค่ชั่วคราวเพราะแดดในตอนกลางวันนั้นแรงมาก หากไปช่วงเย็นๆ ก็พอจะมีลมทะเลพัดให้พอหายร้อนบ้าง และที่ขาดไม่ได้เลยนั้นคือเมนูอาหารสุดแสนจะอร่อยจากทางร้าน ไม่ว่าจะเป็นอาหารจานเดียว ยำรสแซ่บ หรือของหวานก็มีให้เลือกสรรอย่างมากมาย และที่สำคัญมากว่าความอร่อย คือทางร้านรับ เราชนะ คนละครึ่ง และ ม.33 เรารักกันมา สามารถมาให้สิทธิ์ได้ตามความต้องการได้เลย การสั่งออเดอร์แต่ละครั้งขอเตือนไว้ก่อน ลูกค้าทุกท่านจะต้องจองคิวก่อนที่จะสั่งอาหารทุกครั้งนอกจากจะนั่งริมทะเลแล้ว ยังมีบริการแอร์ฉ่ำๆ ไว้ให้หลบร้อน ยังมีบริการร้านเปิดบริการทุกวันไม่มีวันหยุด ตั้งแต่เวลา 10.00 – 19.00 น. ของทุกวัน พิกัด […]
วันนี้เราจะมาขอเอาใจน้องๆหนูๆและหนุ่มๆสาวๆทั้งหลายที่ชื่นชอบจำพวกสัตว์ต่างๆ โดยเฉพาะเจ้าเสือโคร่ง เพราะวันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ “สวนเสือศรีราชา” ซึ่งเป็นสวนสัตว์แห่งหนึ่งที่โด่งดังมากอันดับต้นๆของประเทศไทย ภายในมีสัตว์หลากหลายชนิดอาศัยอยู่ มีโชว์การแสดงจากสัตว์ต่างๆมากมาย แถมยังถือได้ว่าเป็นแลนด์มากค์ที่สำคัญอีกที่หนึ่งของจังหวัดชลบุรี เพื่อไม่ให้เสียเวลา เราไปสัมผัสมิติความแปลกใหม่ของสวนเสือศรีราชาแห่งนี้พร้อมกันเลย “สวนเสือศรีราชา” ตั้งอยู่ที่ : เลขที่ 341 หมู่ 3 ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 250 ไร่ เริ่มเพาะเลี้ยงเสือโคร่งตั้งแต่ในปี พ.ศ. 2532 แต่มาเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2540 สวนเสือศรีราชาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงแนวอนุรักษ์และเชิงนันทนาการควบคู่กันไป มีเสือโคร่งมากมายจำนวนนับไม่ถ้วนกว่า 200 ตัวที่อาศัยอยู่ แถมยังมีสัตว์ชนิดอื่นๆอีกมากมายหลายชีวิตที่อาศัยอยู่เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น หมูlส ช้าง จระเข้ อูฐ กวางดาว กระต่าย วัลบี งูหลาม เป็นต้น นอกจากนี้แล้วสวนสัตว์แห่งนี้ยังมีโชว์การแสดงที่แปลกใหม่แบบหลากหลายจากเหล่าบรรดาสัตว์นานาชนิดที่พร้อมให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความน่าตื่นเต้นตระการตา ในส่วนของการแสดงก็จะมี (การแสดงช้างไต่เชือก) (การแสดงช้างปาลูกดอก) (การแสดงเสือกระโดดข้ามบ่วงไฟ) (การแสดงเสือเดินถอยหลัง) (การแสดงเสือกระโดดข้ามกัน) (การแสดงของจระเข้ ที่มีผู้ฝึกยื่นมือ […]
วันนี้เราจะพาทุกคนไปกันที่เมืองกาญจน์ เพื่อไปรู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งซึ่งเรียกว่ามีชื่อเสียงที่สุดของจังหวัดเลยก็ว่าได้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ว่าใครต่อใคร ทั้งคนไทยเอง หรือจะเป็นชาวต่างชาติหากได้ไปเยือนกาญจนบุรีแล้ว ก็ต้องไม่พลาดที่จะไปสัมผัสกับความพิเศษของแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้กันทุกคน และที่นี่ก็คือ “สะพานข้ามแม่น้ำแคว” นั่นเอง อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มีประวัติมาอย่างยาวนาน เชื่อว่าคงมีใครหลายคนที่เคยไปมาบ้างไป แต่สำหรับใครที่ยังไม่เคยไปแล้วละก็ เราลองไปชมความสวยงามของที่แห่งนี้พร้อมๆกันเลย สะพานข้ามแม่น้ำแคว ตั้งอยู่ที่ : ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี 71000 ก่อนที่จะไปชมความสวยงาม และรายละเอียดต่างๆ เราลองไปทำความรู้จักเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของที่นี่กันก่อนเลย สะพานข้ามแม่แคว หรือทางรถไฟอันเก่าแก่ประจำจังหวัดของกาญจนบุรี ถูกสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2486 ตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพทหารญี่ปุ่น ได้เกณฑ์เหล่าเฉลยศึกฝ่ายพันธมิตรมาใช้แรงงาน พร้อมกับให้สร้างสะพานดังกล่าวที่ทำด้วยไม้ขึ้นมา เพื่อใช้เป็นประโยชน์ในการทำศึกสงคราม ต่อมาในปีพ.ศ.2587 กองกำลังญี่ปุ่นถูกทหารฝ่ายสัมพันธมิตรโจมตีโดยการทิ้งระเบิดกระหน่ำอย่างหนักหน่วง จนตรงกลางของสะพานก็ได้ขาดลง หลังจากสงครามยุติ ในปีพ.ศ.2489 ทางรัฐบาลไทยก็ได้ซ่อมแซมสะพานขึ้นมาใหม่ แต่ครั้งนี้ใช้เป็นโครงสร้างที่ทำด้วยเหล็ก จากนั้นก็มีการปรับปรุงบ้าง ต่อเติมบ้างมาเรื่อยๆ จนกลายมาเป็นสะพานข้ามแม่น้ำแควที่เรารู้จักอย่างเช่นทุกวันนี้ ต่อไปมาเริ่มที่แหล่งท่องเที่ยวของเรากันเลย สะพานข้ามแม่น้ำแคว ได้ชื่อว่าเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองกาญจน์ เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของผู้คนกันเป็นจำนวนมาก การได้มาเดินอยู่บนรางรถไฟของสะพานข้ามแม่น้ำแควถือว่าเป็นอะไรที่ดีมาก เราจะได้ชมความงามสุดกว้างขวางของแม่น้ำแควจากที่สูง ซึ่งมองแล้วสบายตามาก อีกทั้งเมื่อลองมองไปโดยรอบๆก็จะพบกับวิวธรรมชาติของต้นไม้น้อยใหญ่อยู่กันเต็มพื้นที่บริเวณ แถมยังมีวัดวาอาราม บ้านเรือนทรงไทยแบบดั้งเดิมของชาวบ้านระเเวกนั้นด้วย ที่มากไปกว่านั้นยังมองเห็นไปยังภูเขาหลายลูกแบบไกลๆ […]