หากรักที่จะชื่นชมกับความสวยของทะเลหมอกดอยที่ไม่ควรพลาดเลยนั่นคือ ดอยผ้าห่มปก ดอยแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นดอยทะเลหมอกที่สวยที่สุด อีกทั้งยังมีความสูงถึง 2,285 เมตร ถือว่าเป็นดอยที่สูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ สำนักงานป่าไม้จังหวัดเชียงใหม่จัดให้ ดอยผ้าห่มปก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนตั้งแต่ปี 2511 หรือราวๆ 53 ปี ก่อนเท่านั้นเอง โดยพื้นที่ของป่าเป็นลุ่มน้ำฝางกินพื้นที่ประมาณ 31 ตารางกิโลเมตร หรือเทียบเท่ากับ 19,375 ไร่ และมีพื้นที่ในการเดินไปถึงยอดเขาด้วยความสูง 2,285 เมตร จากระดับน้ำทะเล โดยเส้นทางการท่องเที่ยวแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ บ่อน้ำพุร้อนฝาง ถ้ำห้วยบอนน้ำรู และน้ำตกตากเหมย
ในส่วนของการเดินทางไป ดอยผ้าห่มปก ไม่ได้ยากเลย หากเดินทางด้วยรถส่วนตัวแนะนำให้เดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 107 โดยป้ายจะระบุไว้ว่า เชียงใหญ่-ฝาง ซึ่งเส้นทางดังกล่าวจะนำคุณมุ่งหน้าตัดเข้าถนนฝาง-ม่อนปิ่น และเดินทางด้วยเส้นทางนั้นไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร จากนั้นให้เลี้ยงขวาไปตามถนนสหกรณ์ออมทรัพย์ รพช. 4054 อีกประมาณ 8 กิโลเมตร ก็จะถึงบริเวณบ่อน้ำพุร้อนประจำดอยผ้าห่มปกแล้ว และสำหรับใครที่ไม่สะดวกไปรถส่วนตัว รถประจำทางเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แนะนำให้นั่นรถประจำทางที่มีป้ายเขียนว่า กรุงเทพ-ฝาง หรือ เชียงใหม่-ฝาง ระยะทางจากกรุงเทพไปยังจุดหมายประมาณ 700 กิโลเมตร รถโดยสารจะจอดที่อำเภอฝาง จากนั้นให้นั่งรถต่อจนมาถึงอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปกโดยระยะทางประมาณ 160 กิโลเมตร ให้เวลา 2-3 ชั่วโมงโดยประมาณ
เมื่อเดินทางถึง ดอยผ้าห่มปก สิ่งแรกที่จะต้องเจอก่อนเลย นั้นคือ บ่อน้ำพุร้อนฝาง ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงกับอุทยาน อีกทั้งยังเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวของทางอุทยานอีกด้วย และน้ำพุร้อนดังกล่าวจะมีหมอกจางๆ หรือควันออกมาตลอดทุก 15-20 นาที หากใครพกไข่ไก่ไปด้วยจะเป็นเรื่องดีมาก หากคุณไม่จำเป็นต้องไปหาต้นไข่ที่ไหนเลย คุณสามารถวางไข่ไก่ไว้ใกล้บ่อน้ำพุร้อนเพียงไม่กี่นาทีก็สามารถกินไข่ต้มฉ่ำได้แล้ว หลักจากพักจนหายเหนื่อยก็เดินทางต่อ มุ่งหน้าสู่ทางขึ้น ดอยผ้าห่มปก โดยทางเดินขึ้นดอยมีระยาทาง 18 กิโลเมตร หากใครไม่สะดวกเดิน สามารถนำรถส่วนตัวขึ้นไปได้ แต่จะมีค่าบริการดังนี้ รถจักรยานยนต์ 20 บาท, รถยนต์ 4 ล้อ 30 บาท, รถยนต์ 6 ล้อ 100 บาท และจักรยานขึ้นฟรีไม่เสียค่าบริการ และเมื่อเดินทางมาถึงจุดแรกที่เราจะเห็นคือจุดเต็นท์ หรือลานกางเต็นท์กิ่วลม ที่มีความสูงจากพื้นถนนมากถึง 1,924 เมตร โดยรอบสถานที่กางเต็นท์จะเต็มไปด้วยธรรมชาติที่รายล้อมไปด้วยป่าสน
หลังจากพักผ่อนเสร็จช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดคือช่วงเวลาของการตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นในช่วงเวลาตี 4 เดินไปอีก 3.5 กิโลเมตรเพื่อดูความสดใสของพระอาทิตย์ เป็นแสงแรกของวันในยามเช้า จากนั้นเมื่อชื่นชมกับแสงแรกแล้ว ด้านต่อไปคือซิกเนเจอร์ของ ดอยผ้าห่มปก นั่นคือ จุดชมทะเลหมอก ที่สุดแสนจะสวยและอลังการ พื้นที่บนภูเขาปกคลุมไปด้วยหมอกจนไม่เห็นอะไรเลย อีกทังอากาศยังหนาวสดชื่นอีกด้วย ทริปนี้คุ้มค่าแก่การมาเยือนจริงๆ