คำว่า ปีชง เอาจริงๆแล้วไม่ได้หมายถึงการเจอเรื่องเคราะห์ร้าย เจอเรื่องไม่ดีเสมอไป นี่ยังเป็นสิ่งที่หลายคนเข้าใจผิดกันอยู่ อย่างไรเสีย หากเราตกปีชงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอะไรมันก็พาลให้เราเครียด และคิดว่าจะต้องเจอเรื่องทุกข์ใจเสมอ อันนี้เข้าใจได้ นั่นทำให้การแก้ปีชง ด้วยวิธีการที่ถูกต้องจึงนิยมทำกัน การแก้ปีชงอาจะมีหลายวิธี แต่ยอดนิยมสุดก็น่าจะเป็นการเข้าวัด ไหว้พระ ตามความเชื่อ วันนี้เราจะมาซ่อนการแก้ปีชง พร้อมกับขอพรด้วยในคราวเดียวกัน ตามมาดู


วัดเล่งเน่ยยี่
พิกัดที่เราแนะนำ ตามความเชื่อเรื่องแก้ปีชงก็คือ วัดเน่งเล่ยยี่ วัดนี้หากไม่รู้ทางไปก็กดค้นหาในกูเกิ้ลเอาได้ แต่เราจะเล่าเรื่องความเชื่อแทน วัดนี้เป็นหนึ่งในสามวัดมังกรตามความเชื่อของชาวจีนบ้านเรา โดยวัดทั้งสามจะแทนสามส่วนก็คือ ส่วนหัว ส่วนตัว และส่วนหาง โดยวัดเน่งเล่ยยี่จะเป็นตัวแทนของส่วนหัวมังกร ถือว่าเป็นส่วนที่มงคลสุด นั่นทำให้วัดแห่งนี้คนนิยมมาไหว้พระเพื่อแก้ปีชง และขอพระสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปพร้อมกัน บอกเลยว่าวัดนี้คนมาเยอะแทบจะทั้งปี บางคนไม่ได้แก้ปีชงก็มาวัดนี้ด้วยเช่นกันแบบที่เล่าไป
บอกข้อมูลเผื่อไว้สักนิดว่า วัดเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. ใครจะไปแนะนำว่าตรวจสอบวันเวลา และกำหนดการให้ดีด้วยจะได้ไม่เสียเที่ยว




ขั้นตอนการไหว้แก้ปีชง
การไหว้เพื่อแก้ปีชง เราต้องแก้ไขด้วยการไหว้อย่างถูกวิธี เพื่อให้การแก้สัมฤทธิ์ผลเราต้องไหว้ตามขั้นตอนของทางวัดด้วย ขั้นตอนแรก หลังจากเข้ามาในวัดคนค่อนข้างเยอะให้ระวังทรัพย์สินด้วย จากนั้นก็เดินไปบูชาใบแดง เพื่อเขียนชื่อ วันเดือนปีเกิด (ค่าบูชาชุดละ 100 บาท) แนะนำว่าตรงนี้ควรเตรียมปากกาน้ำเงิน หรือดำมาก็ได้เป็นของตัวเอง จะทำให้เร็วขึ้น บวกกับลดการใช้สิ่งของร่วมกันกับคนอื่น อย่าหยิบปากกาแดงมาเขียนก็แล้วกัน นอกจากนั้นก่อนจะเขียนอ่านคำแนะนำ ป้ายบอกวิธีเขียนก่อนแล้วจึงเขียน จะได้ไม่ผิดพลาด แล้วก็เดินไปหยิบธูปมาสามดอกด้านหน้า จากนั้นก็เดินไปยังจุดต่อไป เป็นการเดินตามป้ายเพื่อไปไหว้เทพเจ้าแห่งดวงชะตาชื่อว่า ไท่ส่วยเอี๊ย ตรงนี้ให้อ่านตามป้ายได้เลย ป้ายใหญ่ชัดเจน ตามป้ายพร้อมลูกศรได้เลย ทีนี้ก็จุดธูป ไหว้ อธิษฐานตามที่ใจคิดได้เลย แนะนำว่าใครปีชงก็ขอให้เรื่องร้ายกลายเป็นดี เรื่องหนักกลายเป็นเบา จะดีมาก ส่วนเรื่องอื่นก็ตามใจต้องการ หลังจากไหว้เสร็จเรียบร้อย ให้นำชุดไหว้ ปัดตามตัวทั้งหมด 12 ครั้ง ทำไล่ลงมาตั้งแต่หัวจรดเท้า ตรงนี้จะเป็นการปัดเพื่อไล่สิ่งไม่ดีออกจากชีวิต เหมือนทำให้เคราะห์จากปีชงหมดไป ตรงนี้หากคนมาเยอะอย่าไปยืนออกัน มันจะปัดโดนกันได้แบบไม่ตั้งใจ อีกเรื่องหากเรามาทำแทนคนอื่นขั้นตอนนี้ข้ามได้เลย ไม่ต้องทำแทน เมื่อทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เอาชุดไหว้ส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ได้เลย เค้าจะนำไปรวมกับเพื่อเผารวมตอนสิ้นปี เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยแบบไม่ยากอะไรเลย หากนับเวลาตั้งแต่ขั้นตอนแรกมา ใช้เวลาทั้งหมดก็ประมาณครึ่งชั่วโมงในตอนที่คนไม่เยอะ แต่ถ้าคนเยอะก็อาจจะลากไปถึง 45 นาที ได้เหมือนกัน ใครที่รู้ตัวว่าตัวเองตกปีชง หรือไม่ปีชง ก็สามารถไปไหว้เพื่อขอแก้ปีชง ขอพรสิ่งที่ตัวเองต้องการได้เหมือนกัน




อยากจะขอพาทุกท่านไปรู้จักกับวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองมาเก๊า ประเทศจีน เป็นหนึ่งในวัดที่ดังมากที่สุดของเมืองและเคยได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย ไม่ว่าจะนักท่องเที่ยวคนไหนได้มาเที่ยวมาเก๊า ก็มักจะไม่พลาดแวะเวียนเข้ามากราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จนปัจจุบันวัดแห่งนี้ได้กลายเป็นศูนย์รวมจิตใจและสถานที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายยอดนิยมแก่ชาวมาเก๊าและนักท่องเที่ยวไปแล้ว หากทุกท่านได้ลองอ่านบทความนี้จนจบ ไม่แน่ว่าอาจจะหลงรัก พร้อมอยากจะมาเยือนวัดแห่งนี้สักครั้งในชีวิตก็เป็นได้ “วัดอาม่า (A-Ma Temple)” หรือชื่อที่ชาวไทยอย่างเราคุ้นหูกันว่า “ศาลเจ้าแม่ทับทิม” เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดของมาเก๊า ตั้งอยู่บนเนินเขา ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ก่อนจะมีเมืองมาเก๊าเสียอีก โดยสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1488 วัดอาม่าคือวัดที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์สำคัญทางวัฒนธรรมของมาเก๊า มีการผสมผสานทั้งเทพศักดิ์สิทธิ์องค์ต่างๆ ตามความความเชื่อ, วัฒนธรรมประเพณี, ความศรัทธาในพุทธศาสนา, ลัทธิขงจื้อและลัทธิเต๋า รวมไปถึงคติความเชื่อพื้นบ้าน ภายในวัดมีการประดิษฐาน “องค์เทพธิดาแห่งท้องทะเลหรือองค์เจ้าแม่ทับทิม” ตัวอาคารต่างๆ มีความงดงามอ่อนช้อยตามฉบับสถาปัตยกรรมสไตล์จีน และด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ความศักดิ์สิทธิ์ และความเก่าแก่ ทำให้วัดอาม่ากลายเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวมาเก๊าทั่วทั้งแผ่นดิน อีกทั้งยังเป็นที่นิยมเคารพศรัทธาของนักท่องเที่ยวตั้งแต่อดีตมาถึงในปัจจุบัน จนกระทั่งปีค.ศ.2005 ได้รับการยกย่องให้ขึ้นเป็นมรดกโลกจาก “UNESCO” นอกจากองค์เจ้าแม่ทับทิมที่ผู้คนนิยมกราบไหว้บูชาแล้ว ภายในวัดก็ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกอย่างหนึ่งที่ชาวมาเก๊าและนักท่องเที่ยวให้ความเคารพ ซึ่งสิ่งศักดิ์สิทธ์ที่ว่าก็คือก้อนหินสลักรูปเรือ เป็นก้อนหินที่ว่ากันว่าเจ้าแม่ทับทิมเหยียบลงเป็นก้าวแรกเมื่อครั้งในอดีต สำหรับวิธีการกราบไว้บูชา ให้ผู้กราบไหว้เขียนชื่อ พร้อมคำอธิษฐานลงไปในกังหันลม เชื่อว่าจะเป็นการเสริมสิริมงคลให้แก่ผู้กราบไหว้ วัดอาม่าเปิดให้นักท่องเที่ยวมาแวะเวียน กราบไหว้สักการะและสัมผัสบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ได้ตลอดทั้งปี ช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเยี่ยมเยือนกันมากที่สุด จะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงด้วยกัน ดังนี้ ช่วงแรก […]
สำหรับคนไหนอยากเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศในช่วงเทศกาลหยุดยาว ส่วนตัวอยากแนะนำให้ลองเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้านใกล้ๆ อย่าง ประเทศเมียนมาร์ กันสักหน่อย เนื่องจากประเทศแห่งดังกล่าวเป็นแหล่งรวมของสถานที่เด่นๆ เยอะแยะมากมาย แถมแต่ละแห่งยังโด่งดังในระดับโลกอีกด้วย จึงไม่แปลกหากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย ที่สำคัญคือนอกจากจะอยู่ค่อนข้างใกล้เคียงกับประเทศไทยแล้ว ทราบมาว่าค่าครองชีพก็ถูกด้วยเช่นกัน จึงเหมาะต่อการไปจับจ่ายใช้สอยเป็นอย่างยิ่ง รับรองเลยว่างานนี้ช้อปเพลินแน่นอน ก่อนอื่นต้องยอมรับก่อนว่าชาวไทยส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ซึ่งประชาชนชาวพม่าเองก็นับถือศาสนาพุทธเยอะเหมือนกัน ทั้งสองประเทศจึงมีวัฒนธรรมต่างๆ สอดคล้องกันพอสมควรเลยทีเดียว ย่อมส่งผลให้ชาวไทยส่วนใหญ่เข้าถึงวัฒนธรรมของประเทศเมียนมาร์ได้ค่อนข้างง่าย เพราะมีความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างเปี่ยมล้น หลายต่อหลายคนจึงอยากเดินทางไปกราบสักการะ “เจดีย์ชเวดากอง” สักครั้งในชีวิต ไม่ว่าใครจะแวะมาผ่านไปแถวๆ เมืองย่างกุ้ง จึงต้องเดินทางเข้ามากราบสักการะด้วยเสมอ เพื่อเสริมความเป็นศิริมงคลแก่ชีวิตของตัวเอง แต่นอกเหนือจากการกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ “เจดีย์ชเวดากอง” ก็ต้องเข้ามาขอพร “องค์เทพทันใจ” ด้วย หากคนไหนเคยเดินทางมาเยี่ยมเยือน “เจดีย์ชเวดากอง” กันมาบ้างแล้ว คิดว่าคนส่วนใหญ่คงน่าจะมีความคุ้นเคยกับ “องค์เทพทันใจ” เป็นอย่างดี เพราะช่วงที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาขอพรเหนียวแน่นคับคั่ง ยิ่งในช่วงเทศกาลต่างๆ จะยิ่งมีนักท่องเที่ยวเยอะเป็นพิเศษ สำหรับใครเคยติดตาม Instagram ของดารานักแสดงชาวไทย คงทราบดีว่าพวกเขามีความเชื่อมากขนาดไหน ในแต่ละปีจะมีดารานักแสดงชาวไทยแห่แหนเข้ามาขอพรกับ “องค์เทพทันใจ” อยู่เรื่อยๆ เนื่องจากเชื่อว่าจะช่วยเสริมสร้างความเป็นมงคลต่อชีวิต และหน้าที่การงาน เมื่อประชาชนชาวไทยเห็นอย่างนั้น จึงไม่รอช้ารีบเดินทางมากราบสักการะเป็นจำนวนเยอะเลยทีเดียว จนล่าสุดกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวไทยไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนตัวค่อนข้างมั่นใจพอสมควรว่าบรรดาเหล่าประชาชนชาวไทย คงอยากเดินทางไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศสักครั้งในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ […]
ร้อยเอ็ด ใครที่มาเยือนในตัวเมืองร้อยเอ็ด จะต้องนึกถึงที่แรก นั่นก็คือ บึงพลาญชัย เป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ ชาวร้อยเอ็ดนิยมมาออกกำลังกาย นั่งพักผ่อน ให้อาหารปลา รวมไปถึงกิจกรรมให้พายเรือเล่นชมวิวกลางบึง ซึ่งเป็นแลนมาร์คที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว ที่อยู่ : ต.ในเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด, 45000 เวลาทำการ : เวลา 04.00 – 21.00 น. แผนที่ Google Map : https://goo.gl/maps/jGKgiM2efdsS2ZJ56 หอโหวด 101 แลนด์มาร์คแห่งใหม่ใจกลางเมืองร้อยเอ็ด เด่นสุดในย่าน ที่มีความสูงกว่า 101 เมตร หรือเทียบเท่ากับอาคารสูงกว่า 35 ชั้น จะแบ่งตามชั้นต่าง ๆ เช่น พระพุทธมิ่งเมืองมงคล (พระพุทธรูปประจำจังหวัด), พื้นกระจก Sky Walk, พื้นที่ชมวิว 360 องศา, พิพิธภัณฑ์เมือง, ร้านอาหาร, ร้านขายของที่ระลึก เป็นต้น พร้อมกับจุดชมวิวโล่ง […]