ประเทศไทย รีวิวสถานที่ท่องเที่ยว

คนเดียวก็เที่ยวได้ แบกเป้พิชิตภูกระดึง เที่ยวโหดรับลมหนาว

ช่วงหน้าหนาวแบบนี้แนะนำให้ไปเที่ยง ภูกระดึง  จ.เลย  ที่เที่ยวสำหรับขาลุยที่รักการผจญภัย หนึ่งชีวิตต้องไปพิชิตสักครั้ง รับรองได้เลยว่าการไปขึ้นภูปีนเขาครั้งนี้จะเป็นความทรงจำที่สวยงาม วันนี้ ติดRoam ขอท้าพวกคุณทั้งพลังกายใจและเรี่ยวแรงที่มีทั้งหมดให้อะดรีนาลีนพุ่งพล่าน ไปปีนเขาด้วนกัน

ทุกปี ภูกระดึง จะเปิดให้นักท่องเที่ยวขาลุยที่รักธรรมชาติได้เข้าเที่ยวชมช่วง 1 ตุลาคม – 31 พฤษภาคม โดยเราสามารถที่จะจองบ้านพัก เต็นท์ และพื้นที่ทำกิจกรรม ก่อนจะไปขึ้นภูกระดึงได้ ผ่านเว็บไซต์ของทางอุทยานแห่งชาติ รักการเป็นอยู่แบบไหนก็สามารถเลือกได้ตามใจต้องการ หรือจะพกเต็นท์ส่วนตัวไปกางเองก็ได้เสียค่าเช่าพื้นที่ คืนละ 200 บาทโดยประมาณ

เริ่มออกเดินทางไป ภูกระดึง จ.เลย ด้วยรถทัวร์จากกรุงเทพฯ แนะนำให้เดินทางตอนค่ำจะดีกว่า จะมาถึงปลายทางช่วงเช้ามืดพอดี ซึ่งรถทัวร์ที่เราจะไปเป็น รถทัวร์กรุงเทพฯ-ภูกระดึง จะจอดให้ลงที่ ผานกเค้า เป็นจุดที่พิเศษมากเพราะมีร้านของฝาก ร้านอาหารและร้านกาแฟให้ได้นั่งจิบกาแฟเบาๆ ก่อนที่จะนั่งรถแดงไปยังจุดหมาย อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย

ด้วยความบู้ของเรา ครั้งนี้เราจะไม่เช่าที่พักกับทางอุทยาน เราจะแบกเต็นท์ขึ้นไปกางเอง ที่จริงไม่ต้องเหนื่อยแบกเองหรอกค่ะ ที่อุทยานมีบริการลูกหาบในราคาย่อมเยาดีต่อกระเป๋าตังค์ จากนั้นนำการะเป๋าสัมภาระทุกอย่างไปจุดชั่งน้ำหนักได้เลย จากนั้นก็เตรียมตัวเตรียมใจขึ้นเขากันได้เลย!

หลักจากเตรียมร่างกายเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ น้ำดื่ม อย่าลืมพกติดตัวไปด้วยนะคะ ด้านบนมีขายก็จริง แต่กว่าจะเดิมไปถึงแต่ละซำนั้นมันยากลำบากมากจริงๆ ไม่ได้ขู่ให้กลัวว่าระยะทางมันไกล แต่ให้เตรียมพร้อมไว้ก่อนเดินทาง จากนั้นก็เดินขึ้นไปด้วยความสูงจากน้ำทะเล 1,288 เมตร และระยะทาง 5,500 เมตร ใช้เวลาในการเดินเท้าประมาณ 4-6 ชม. หรือมากว่านั้น!!! เดินกันไปมาสลับบันได้บ้าง ทางเรียบบ้าง ฮึดสู้ให้ถึงที่สุดและแล้วเราก็มาถึง ซำแฮ่ก แล้วค่ะ ขออธิบายคำว่า “ซำ” กันก่อนจะงงไปมากกว่านี้ซำนั้นคือบริเวณที่ต่ำที่มีน้ำไหลมารวมเป็นแอ่งขัง ยกตัวอย่างเช่น ที่ต่ำของเนินป่า ทางขึ้น ภูกระดึง จะมีอยู่หลายซำย่ำว่าหลายซำมาก และแต่ละซำถือเป็นจุดพักเหนื่อยและแวะรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม (ทางขึ้นภูกระดึงมีทั้งหมดประมาณ 7 ซำ นั้นคือ ซำแฮก, ซำบอน, ซำกกกอก, ซำกกหว้า, ซำกกไผ่, ซำกกโดน และซำแคร่)

กว่าจะมาถึงซำแฮกให้เวลาพอสมควร ถือเป็นซำแรกที่โหดมาก ก่อนที่จะเดินทางต่อ เข้าห้องน้ำกันก่อน ที่นั้นมีบริการห้องน้ำด้วยนะคะ บอกก่อนว่าร้านอาหารเยอะมาก ยิ่งขึ้นไปสูงเท่าไหร่ ค่าน้ำแต่ละแก้วก็จะสูงตามกำลังแบกขึ้นไปด้วย ยังไงก็อย่าลืมเติมพลังกันก่อนนะคะ เดินทางต่อโดยผ่าน ซำบอน, ซำกกกอก, ซำกกหว้า เดินจิบน้ำเบาๆ พร้อมถ่ายวิวสวยๆ การได้เห็นธรรมชาติที่สวยงามถือเป็นกำไรแล้วค่ะ ระหว่างทางก็เดิมชมบรรยากาศไปเพลินๆ จนมาถึงซำแคร่ ครั้งนี้เราใช้เวลาเดินทางเกือบ 8 ชม เดินกันตั้งแต่เช้ายันเย็น จากนั้นเดินทางต่อไปดูจุดชมพระอาทิตย์ตก ที่ ผาหมากดูก

เดินทางต่อไปยัง จุดบริการนักท่องเที่ยวของอุทยาน เพื่อตั้งแลนด์มาร์คที่พักของเรา ผ่านไปหนึ่งวันกับการเดินขึ้นเขา แสงอาทิตย์ค่อยๆ ลับไป หมู่ดาวที่สวยงานก็มาแทนที่ บอกตรงๆ มาถึงจุดนี้มันเหนื่อยมาก แต่ก็หนาวสุดขั้วเหมือนกัน หนาวบวกกับความเหนื่อยแบบนี้หมูกระทะจะเยียวยาคุณเอง

ตื่นเช้ามาพร้อมกับความสดใส พร้อมออกไปผจญภัยต่อในดินแดน ภูกระดึง จุดชมวิวบนภูนั้นมีระยะทางเกือบ 60 เมตร สู้ๆ นะคะ เราจะเดินไปด้วยกันหรือจะปั่นจักรยานไปก็ได้แล้วแต่สะดวก ก่อนจะออกเดินทางแวะหาอะไรทานเพื่อเพิ่มพลังกันซะก่อน จากนั้นเดินทางไปลานพระศรีนครินทร์ โดยการไปไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยกันซะก่อน

จากนั้นเราจะผ่าน สระอโนดาต ซึ่งเป็นสระน้ำสีเขียวสวยงามมาก อากาศก็เย็นสบาย มีลมหนาวพัดมาเป็นระยะ จุดชมวิวมีตามผาหลายที่มาก มีทั้ง ผานาน้อย ผาแดง ระหว่างเดินทางก็ชมธรรมชาติไปด้วย อีกหนึ่งที่ ที่จะแวะแบบจริงจังคือ ผาเหยียบเมฆ จุดนี้เป็นอะไรที่สวยมากคือจะพลาดไม่ได้เลย

เดินทางต่อยัง ผาหล่มสัก จุดชมพระอาทิตย์ตกบน ภูกระดึง จุดนี้ถือเป็นไฮไลท์ของการมาเที่ยวเลย เพราเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่ดีที่สุดในประเทศไทย นั่งชมพระอาทิตย์ตกพร้อมจิบกาแฟไปด้วย ได้ฟีลลิ่งของการเดินทางสุดๆ ชื่นชนกับบรรยากาศแล้ว ก็ออกไปยืนชมต้นสนพร้อมกับถ่ายรูปในมุมสวยๆ เก็บภาพเหล่านี้ไว้เป็นความทรงจำตลอดไป

หลังจากอาทิตย์ลับของฟ้าไม่นานนักความมือก็เข้ามามืดสนิท ตัวแทนที่จะช่วยเราจากความมืดได้คือแสงของไฟฉายและแนะนำให้เดินไปกันเป็นกลุ่มจะปลอดภัยกว่า และแล้วเราก็เดินทางมาถึงลานกางเต็นท์ที่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยในช่วงกลางคืน หมดไปอีกหนึ่งวัน บอกเลยว่าปวดขามาก ขอพักผ่อนเอาแรงก่อนนะคะ

ตื่นมาในเช้าวันที่ 3 ของการผจญภัย และนี้เป็นวันสุดท้ายของเรา ตื่นเช้าเพื่อมาดูพระอาทิตย์ขึ้นรับวันใหม่ที่ผานกแอ่นเป็นความรู้สึกที่อบอุ่นและดีต่อใจมาก หายเหนื่อยเลย กลับมาเก็บข้าวของเตรียมตัวกลับบ้าน และไปต่อที่จุดบริการนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการลูกหาบอีกครั้ง ด่านต่อไปคือการเดินลง ภูกระดึง เพื่อกลับบ้านกันค่ะ

รู้สึกว่าขาลงจะชิวมากกว่าตอนขาขึ้นอีกนะ เป็นการลงที่สนุกมาก ความพีคก่อนมาถึงคือไรรู้ไหม ด้านล่างของอุทยาน มีป้ายเขียนไว้ว่า ขอให้มีสุขภาพที่แข็งแรง บอกได้เลยว่าจริงค่ะ ขาแข็งหมดแล้ว สรุปจบไปแล้วกับการเที่ยวแบบฮาร์ดคอร์ใช้เวลาไป 3 วัน 2 คืน นึกถึงก็อยากไปอีกชอบธรรมชาติที่สวยงามกับอากาศที่ชดชื่นและหนาวสุดขั้ว ถ้ามีโอกาสเราคงได้ไปเที่ยวกันใหม่ จบทริป ภูกระดึง จ.เลย