จังหวัดนครนายก เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่คนไปเที่ยวกันเยอะมาก จุดเด่นเป็นเรื่องระยะทางที่ไม่ไกลมาก เราสามารถไปเที่ยวแบบเช้าเย็นกลับได้เลย หรือจะสองวันหนึ่งคืนก็ได้กำลังดี แถมไม่เหนื่อยด้วย ไม่เพียงแค่นั้นจังหวัดนครนายกยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเกิดใหม่เยอะเลย ยิ่งพวกคาเฟ่นี่มีสวยๆหลายแห่งเหมือนกัน วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักอีกหนึ่งคาเฟ่ยอดฮิตของจังหวัดนครนายกชื่อว่า Montreux café & farm
ทำความรู้จัก Montreux café & farm
คาเฟ่แห่งนี้มาด้วยธีม คาเฟ่ กับ เกษตรท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ตั้งอยู่ในเขตอำเภอองครักษ์ รังสิตคลอง 15 พื้นที่ภายในจะแบ่งออกเป็นโซนต่างๆให้เราได้ไปเที่ยวกันพร้อมกับทำกิจกรรมตามแต่ละโซน วิธีการเดินทางให้ขับรถส่วนตัวจะดีที่สุด เดินทางตามถนนรังสิต นครนายก เดินทางจนถึงคลอง 15 ให้เลี้ยวซ้ายตามป้ายบอกทางจะเข้าซอยก็ตามนั้นได้เลย พอเราเลี้ยวเข้าไปจะเห็นรถเยอะเลย แต่ที่จอดรถยอมรับว่ามีน้อยไปหน่อยหากไปวันธรรมดาก็โอเคแต่ว่าถ้าไปวันเสาร์อาทิตย์คนจะเยอะมากจนรถมันล้นออกมาจอดข้างนอกแทน ยังดีที่หากไปจอดข้างนอกจะมีพี่ยามมาคอยโบกรถเข้าออก อำนวยความสะดวกให้ได้ในระดับหนึ่ง
รีวิวท่องเที่ยว
พอลงจากรถได้เราจะเจอโซนแรกเป็นโดมอาคารกระจกครึ่งไม้ขนาดใหญ่ ตกแต่ด้วยต้นไม้ใหญ่สองต้นด้านหน้า โซนนี้คนจะเยอะหน่อยเพราะว่าเป็นโซนอาหาร เครื่องดื่ม หลายคนจะนั่งแวะพักตรงนี้ก่อนจะลุยต่อเข้าไปด้านในโซนนี้ด้านในจะเป็นห้องแอร์ ช่วยคลายร้อนได้ คนเยอะพอสมควร แต่ว่าถ้าใครอยากนั่งชิลๆแนะนำว่าไปโซนด้านนอกที่จะมีกำแพงน้ำตกช่วยให้อากาศไม่ร้อนอย่างที่คิด แต่ได้ความเงียบมาแทนที่ เรื่องอาหารเครื่องดื่ม หากไปวันธรรมดารอไม่นานเท่าไร แต่ว่าถ้าเป็นวันเสาร์ อาทิตย์ คนจะเยอะเป็นพิเศษอาจจะต้องรอ แต่ไม่เกินครึ่งชั่วโมง เมนูแนะนำ ชาไทยสีส้มแก้วใหญ่ที่ชงมาพอดีไม่หวานมากเกินไป ดื่มแล้วสดชื่นพร้อมลุยต่อได้ในการท่องเที่ยว กินคู่กับเบเกอรี่ เค้กของทางร้านรสชาติเข้ากันดี ราคาไม่แพงเท่าไร
หลังจากเติมพลังกันเสร็จแล้วก็ถึงเวลาเดินท่องเที่ยวกันบ้าง เราเดินพ้นโซนคาเฟ่ไปจะเป็นอีกหนึ่งบรรยากาศ จะเป็นเหมือนกับทุ่งนาให้เราเดินเล่น พร้อมกับถ่ายรูปได้ ระหว่างทางจะมีศาลากลางน้ำให้เรานั่งเล่นเป็นระยะ วันที่เราไปโชคดีแดดไม่แรงมากเท่าไร นั่นทำให้เดินสบาย แต่ถ้ามาวันแดดออกก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน คงเดินได้ไม่ไกลเท่าไร ระหว่างเดินชม เราจะเจอกับเล้าไก่ขนาดใหญ่ เด็กๆน่าจะชอบในการเข้าไปดูสัตว์ตัวป่วนนี้แบบใกล้ๆ พอเดินเข้าไปอีกจากทางดิน จะเปลี่ยนเป็นสะพานไม้ไผ่ได้บรรยากาศเข้ากับท้องทุ่งนา รวมถึงยังมีมุมถ่ายรูปเป็นระยะ ไม่ว่าจะเป็นหุ่นไล่กา เถียงนาน้อย มุมชิงช้า รั้วไม้ไผ่ รั้วผักไม้เลื้อย ผักริมคลอง ที่มีเยอะแยะมากมายหลายจุด กว่าจะเดินครบรอบก็เล่นเอาเหนื่อยจนเย็นพอดี
คาเฟ่แห่งนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคาเฟ่ที่ไม่ควรพลาดมาก แต่แนะนำว่าควรมาช่วงบ่ายค่อนไปทางเย็นจะดีกว่า อากาศไม่ร้อนทำให้เดินเที่ยวได้สบาย รวมถึงแสงแดดตอนเย็นที่ลดดีกรีความเข้มลงทำให้เราถ่ายรูปได้สวยมากกว่า แสงแดดตอนเย็นกับต้นข้าว พอกระทบกันถ่ายรูปออกมาสวยดีทีเดียว ใครสนใจไปคาเฟ่สวยๆสไตล์บ้านทุ่ง บ้านนาที่นี่ตอบโจทย์เลยมาเหอะไม่ผิดหวังแน่นอน
